วันอังคาร
ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557
กิจกรรมการเรียนการสอน
-อาจารย์ อธิบายแนวข้อสอบ
- สร้างข้องตกลงในการสอบ
Child Care of Early Childhood with Special Need การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ
.
วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
บันทึกการเรียนการสอน ครั้งที่ 15
วันอังคาร ที่ 11 กุมภาพันธ์
2557
กิจกรรมการเรียนการสอน
*เนื้อหาที่อาจารย์สอน
เด็กที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้
LD
1. การดูแลให้ความช่วยเหลือ
>สร้างความภาคภูมิใจใจตนเอง
>มองหาจุดดีจุดแข็งและให้คำชมอยู่เสมอ
> การเสริมแรงทางบวก
>รู้จักลักษณะของเด็กที่เป็นสัญญาณเตือน
>วางแผนการจัดทำแฟ้มข้อมูลเกี่ยวกบการเรียนรู้ของเด็ก
> สังเกตความสามารถและการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน
IEP
2. การรักษาด้วยยา
>Ritalin
>Dexedrine
>
Cylext
หน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือ
> สศศ.
สำนักงานบริหารการศึกษาพิเศษ
> มีหน้าที่ช่วยเหลือประสานงานและส่งตัวเด็ก
>โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์
> ศูนย์การศึกษาพิเศษ
Early Intervention ย่อมาจาก EI
>โรงเรียนเฉพาะความพิการ
>สถาบันราชานุกูล
บันทึกการเรียนการสอน ครั้งที่ 14
วันอังคาร
ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557
กิจกรรมการเรียนการสอน
กิจกรรมการเรียนการสอน
การดูแลรักษาและส่งเสริมพัฒนาการเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
Down's syndrome
-
รักษาตามอาการ
-
แก้ไขความผิดปกติที่พบร่วมด้วย
-
ให้เด็กสามารถช่วยเหลือตนเองได้ในชีวิตประจำวัน
-
เน้นการดูแลแบบองค์รวม
1.
ด้านสุขภาพอนามัย
บิดามารดาให้พาบุตรไปพบแพทย์ตั้งแต่เริ่มแรก ติดตามการรักษาเป็นระยะ
2.
การส่งเสริมพัฒนาการ
เด็กกลุ่มอาการดาวน์สามารถพัฒนาได้ถ้าได้รับการฝึกสอนที่เหมาะสม
3.
การดำรงชีวิตประจำวัน
ฝึกช่วยเหลือตนเองให้มาที่สุด
4.
การฟื้นฟูสมรรถภาพ
- การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ เช่น การฝึกพูด กายภาพบำบัด
กิจกรรมบำบัด
-
การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการศึกษาโดยจัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล ( LEP )
- การฟื้นฟูสมรรถภาพทางสังคม เช่น การฝึกทักษะการดำรงชีวิตประจำวัน
-
การฟื้นฟูสมรรถภาพทางอาชีพโดยการฝึกอาชีพ
การปฏิบัติของบิดามารดา
- ยอมรับความจริง
-
เด็กกลุ่มอารดาวน์มีพัฒนาการเป็นขั้นตอนเช่นเดียวกับเด็กทั่วไป
- ให้ความรักและความอบอุ่น
- การตรวจภายใน ตรวจหามะเร็งปากมดลูกและเต้านม
- การคุมกำเนิดและการทำหมัน
- การสอนเพศศึกษา
- ตรวจโรคหัวใจ
การส่งเสริมพัฒนาการ
- พัฒนาทักษะด้านต่างๆ เช่น
คณิตศาสตร์และภาษา
-
สามารถปรับตัวและช่วยเหลือตนเองได้มากขึ้น
- สังคมยอมรับมากขึ้น
ไปโรงเรียนร่วมหรือเรียนรวมได้
- ลดปัญหาพฤติกรรม
- คุณภาพชีวิตดีขึ้น
Autistic
ส่งเสริมความเข้มแข็งของครอบครัว
-
ครอบครัวมีบทบาทสำคัญที่สุดในกระบวนการดูและช่วยเหลือเด็กออทิสติก
ส่งเสริมความสามารถเด็ก
-
การเสริมสร้างโอกาสให้เด็กได้เล่นของเล่นที่หลากหลาย
- ทำกิจกรรมที่หลากหลาย
การปรับพฤติกรรมและฝึกทักษะทางสังคม
-
เพิ่มพฤติกรรมที่เหมาะสมและลดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
- การให้แรงเสริม
การฝึกพูด
-
โดยเฉพาะในรายที่มีพัฒนาการด้านภาษาและสื่อความหมายล่าช้า
- ถ้าเด็กพูดได้เร็ว
โอกาสที่จะพัฒนาการด้านภาษาใกล้เคียงเด็กปกติก็จะเพิ่มมากขึ้น
- ลดการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสม
-
ช่วยลดพฤติกรรมก้าวร้าวที่เกิดจากการไม่สามารถสื่อสารความต้องการได้
- การสื่อความหมายทดแทน ( AAC )
การสื่อความหมายทดแทน ( Augmentative and Alternative Communication ;
AAC )
- การรับรู้ผ่านการมองเห็น ( Visual Strategies )
-
โปรแกรมการแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสาร (
Picture
Exchange Communication System ; PECS )
- เครื่องโอภา ( Communication Devices )
- โปรแกรมปราศัย
การส่งเสริมพัฒนาการ
- ให้เด็กมีพัฒนาการเป็นไปตามวัย
- เน้นในเรื่องการมองหน้าสบตา การมีสมาธิ
การฟัง และทำตามคำสั่ง
-
ส่งเสริมพัฒนาการด้านอื่นที่ล่าช้าควบคู่กับการพัฒนาทักษะด้านการสื่อสาร สังคม
และการปรับพฤติกรรม
การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการศึกษา
- เพิ่มทักษะพื้นฐานด้านสังคม การสื่อการ
และทักษะทางความคิด
- แผนการจักการศึกษาเฉพาะบุคคล
- โรงเรียนร่วม ห้องเรียนคู่ขนาน
ฟื้นฟูสมรรถภาพทางสังคม
-
ทักษะในชีวิตประจำวันและการฝึกฝนทักษะสังคม
-
ให้เด็กสามารถทำได้ด้วยตนเองเต็มความสามารถโดยต้องการความช่วยเหลือน้อยที่สุด
การรักษาด้วยยา
- Methylphenidate ( Ritalin )
ช่วยลดอาการไม่นิ่ง / ซน / หุนหันพลันแล่น / ขาดสมาธิ
- Risperidone / Haloperidol ช่วยลดอาการอยู่ไม่นิ่ง หงุดหงิด
หุนหันพลันแล่น พฤติกรรมซ้ำๆ พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง
- ยาในกลุ่ม
Anticonvulsant ( ยากันชัก ) ใช้ได้ผลในรายที่มีพฤติกรรมทำร้ายตัวเอง
การบำบัดทางเลือก
- การสื่อความหมายทดแทน ( AAC )
- ศิลปกรรมบำบัด ( Art Therapy )
- ดนตรีบำบัด
( Music
Therapy )
- การฝังเข็ม
( Acupuncture
)
- การบำบัดด้วยสัตว์ ( Animal Therapy )
พ่อแม่
- ลูกต้องพัฒนาได้
- เรารักลูกของเราไม่ว่าเข้าจะเป็นอย่างไร
- ถ้าเราไม่รักและใครจะรัก
- หยุดไม่ได้
- ดูแลจิตใจและร่างกายของตนเองให้เข้มแข็ง
- ไม่กล่าวโทษตนเองหรือคู่สมรส
- ควรหันหน้าปรึกษากันในครอบครัว
บันทึกการเรียนการสอน ครั้งที่13
วันอังคาร
ที่ 28 มกราคม 2557
ไม่มีการเรียนการสอน เนื่องจาก** สอบกลางภาคในคาบเรียน **
ไม่มีการเรียนการสอน เนื่องจาก** สอบกลางภาคในคาบเรียน **
บันทึกการเรียนการสอน ครั้งที่ 12
วันอังคาร
ที่ 21
มกราคม 2557
- อาจารย์ให้นักศึกษาทำตามแบบดังต่อไปนี้
กิจกรรมการเรียนการสอน
พัฒนาการของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
พัฒนาการ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงในด้านการทำหน้าที่
โดยทั่วไปพัฒนาการปกติแบ่งออกเป็น 4 ด้าน คือ
พัฒนาการด้านร่างกาย
พัฒนาการด้านสติปัญญา
พัฒนาการด้านจิตใจ - อารมณ์
พัฒนาการด้านสังคม
เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ หมายถึงเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้ากวาเด็กปกติในวัยเดียวกัน
พัฒนาการล่าช้าอาจพบเพียงด้านใดด้านหนึ่งหรือหลายด้านหรือทุกด้าน
และพัฒนาการล่าช้าในด้านหนึ่งอาจส่งผลในพัฒนาการในด้านอื่นล่าช้าด้วยก็ได้
ปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการเด็ก
-ปัจจัยทางด้านชีวภาพ เกี่ยวข้องกับลักษณะทางพันธุกรรม
-ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมก่อนคลอด การติดเชื้อ
สารพิษ สภาวะทางโภชนาการ
-ปัจจัยด้านกระบวนการคลอด การเกิดภาวะแทรกซ้อนในระยะคลอด
-ปัจจัยทางด้านสภาวะแวดล้อมหลังคลอด สภาวะหลังคลอด ปัจจัยด้านระบบประสาท
และสภาพแวดล้อมส่งผลร่วมต่อพัฒนาการของเด็ก
สาเหตุที่ทำให้เกิดความบกพร่องทางพัฒนาการ
1. โรคทางพันธุกรรม
2. โรคของระบบประสาท
3. การติดเชื้อ
4. การผิดปกติเกี่ยวกับเมตาบอลิซึม
5. ภาวะแทรกซ้อนระยะเกิด
6. สารเคมี
7. การเลี้ยงดูที่ไม่เหมาสมรวมทั้งการขาดสารอาหาร
อาการของเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ มีพัฒนาการล่าช้าอาจจะพบมากกว่า 1 ด้าน
แนวทางการวินิจฉัยเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ
1. การซักประวัติ
2. การตรวจร่างกาย
3. การสืบค้นทางห้องปฏิบัติการ
4. การประเมินพัฒนาการ
แนวทางในการดูแลรักษา
1. หาสาเหตุที่ทำให้เกิดความบกพร่องทางพัฒนาการล่าช้า
2. การตรวจค้นหาความผิดปกติร่วม
3. การรักษาสาเหตุโดยตรง
4. การส่งเสริมพัฒนาการ
5. ให้คำปรึกษากับครอบครัว
สรุปขั้นตอนในการดูแลเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ
1. การตรวคิดกรองพัฒนาการ
2. การตรวประเมินพัฒนาการ
3. การให้การวินิจฉัยและสาเหตุ
4. การให้การรักษาและส่งเสริมพัฒนาการ
5. การติดตามและประเมินผลการรักษาเป็นระยะ
บริการที่สำคัญสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ
1. การตรวจการได้ยิน
2. การให้คำปรึกษาครอบครัว
3. การจัดโปรแกรมการศึกษา
4. บริการทางการแพทย์
5. บริการทางการพยาบาล
6. บริการด้านโภชนาการ
7. บริการด้านจิตวิทยา
8. กายภาพบำบัด
9. กิจกรรมบำบัด
10. อรรถบำบัด- อาจารย์ให้นักศึกษาทำตามแบบดังต่อไปนี้
วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2557
บันทึกการเรียนการสอน ครั้งที่ 10
วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557
อาจารย์ให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอ
เรื่องที่เกี่ยวกับกับความต้องการสำหรับเด็กพิเศษ มีดังนี้
กลุ่มที่1. ความบกพร่องทางสมองพิการ
สรุปจากการนำเสนอ
สรุปจากการนำเสนอ
สมองพิการ หรือคำย่อที่นิยมเรียก
คือ ซี พี (C.P.) ไม่ใช่เป็นโรคเฉพาะ
แต่เป็นคำรวมของกลุ่มอาการของผู้ป่วยเด็กที่มีความพิการอย่างถาวรของสมอง ซึ่งมีผลให้การประสานงานของการทำงานของกล้ามเนื้อบกพร่อง
ส่งผลให้ร่างกายมีการเคลื่อนไหวและการทรงท่าที่ผิดปกติ เช่น การเกร็งของใบหน้า
ลิ้น ลำตัว แขน ขา การทรงตัว การทรงท่าในขณะนั่ง ยืน เดิน ผิดปกติหรืออาจเดินไม่ได้
นอกจากนี้
อาจมีความผิดปกติในการทำงานของสมองด้านอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น
มีความบกพร่องในการมองเห็น ได้ยิน การรับรู้ การเรียนรู้ สติปัญญา และโรคลมชัก เป็นต้น
กลุ่มที่ 2. ความบกพร่องทางการเรียนรู้ ( LD.
)
สรุปจากการนำเสนอ
สาเหตุ
สรุปจากการนำเสนอ
เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้ (L.D)หมายถึง
เด็กที่มีความบกพร่องอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างในกระบวนการพื้นฐาน ทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับความเข้าใจหรือการใช้ภาษา
อาจเป็นการพูดและ/หรือภาษาเขียน หรือการคิดคำนวณ
รวมทั้งสภาพความบกพร่องในการรับรู้ สมองได้รับบาดเจ็บกาปฏิบัติงานของสมองสูญเสียไป
การได้รับบาดเจ็บทางสมองเนื่องจากระบบประสาทส่วนกลางได้รับบาดเจ็บไม่สามารถทำงานได้เต็มที่
กรรมพันธุ์ เนื่องจากงานวิจัยจำนวนมากระบุว่า
ถ้าหากพ่อแม่ ญาติ พี่น้องที่ใกล้ชิดเป็นจะมีโอกาส ถ่ายทอดทางพันธุ์กรรม
สิ่งแวดล้อม เป็นสาเหตุอื่น ๆ
ที่ไม่ใช่การได้รับบาดเจ็บทางสมอง หรือกรรมพันธุ์ เช่น การพัฒนาการช้า
เนื่องจากการได้รับสารอาหารไม่ครบ ขาดสารอาหาร มลพิษ การเลี้ยงดู
3. โรคสมาธิสั้น
สรุปจากการนำเสนอ
ลักษณะอาการ
ไม่อยู่นิ่ง
เคลื่อนไหวตลอดเวลา แม้ขณะรับประทานอาหาร เช่น
นั่งรับประทานอาหารได้เพียงคำเดียวก็ลุกขึ้นวิ่ง มักพูดแทรกและขัดจังหวะคนอื่น
เป็นคนอดทนรอไม่ได้ เช่นเวลาเข้าแถว เวลาเล่นของเล่น หรือเกมที่ต้องผลัดกันเล่น
เล่นของเล่นอย่างใดอย่างหนึ่งได้ไม่นาน ไม่สามารถทำตามคำสั่งง่าย ๆ ได้
ทั้งที่มีความเข้าใจ และสื่อสารได้ปกติ
เล่นเสียงดังมากกว่าเด็กคนอื่นไม่ชอบแบ่งปัน ชอบแย่งของจากคนอื่น
โดยไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่ถูกแย่ง ดูเหมือนกับมีพลังงานมากมาย
ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
สรุปจากการนำเสนอ
เด็กสมาธิสั้น คือ กลุ่มเด็กเก่ง ไหวพริบและ
ไอคิวดีมาก แต่คำว่า สมาธิสั้น
คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดเป็นแง่ลบว่า ปัญญาอ่อน
ไม่สามารถจะเรียนอะไรได้เลย
กลับตรงข้าม
เป็นเด็กที่มีสมาธิมากเหมือนอยู่ในภวังค์ในเรื่องที่ชอบ สนใจแต่ไม่อาจมีสมาธิได้เลยในเรื่องที่ไม่สนใจ
ลักษณะอาการ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)